BRAND CORNER สุดยอด กลยุทธ์ ที่ดีที่สุด ในการ เร่ง เพิ่มยอดขาย และ ขยายตลาด โดย คุณ อนิรุทธ หุตางกูร

ชื่อของ โครงการ BRAND CORNER เป็นการนำ ชื่อ แบรนด์สินค้า ที่เราต้องการ สร้างแบรนด์ ใส่แทนที่ คำว่า BRAND ในโครงการ เช่น เรามี แบรนด์สินค้า ชื่อ MARCON ก็ใช้ชื่อโครงการว่า โครงการ MARCON CORNER เพื่อสื่อ ให้ร้านค้าเห็น มิตรภาพอันดีงาม ที่ บริษัท ผู้แทนจำหน่าย สินค้าแบรนด์ นั้น ตั้ง โครงการดีๆขึ้นมาเพื่อที่จะ ช่วยเหลือ ร้านค้า ใน การเพิ่มยอดขาย และ ขยายตลาดในพื้นที่ รวมทั้ง ช่วยปรับมาตรฐาน บุคคลากร รวมถึง สิ่งต่างๆในร้าน ให้ดูดี มีมาตรฐาน เพิ่มมากขึ้น
โดยมี ข้อแลกเปลี่ยนที่ WIN-WIN ทั้ง 2 ฝ่าย คือ ในการตั้ง โครงการขึ้นมาในลักษณะนี้ ต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากเกิดขึ้น กับ ทางบริษัท เจ้าของแบรนด์ เพราะบริษัท ไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นใด กับเจ้าของร้าน จึงจำเป็นต้อง กำหนดเงื่อนไข ของการเข้าร่วม โครงการ ว่า ทางร้าน ต้องซื้อสินค้าลงหน้าร้าน 1 LOT ในราคาส่งปกติ โดยมี สินค้า BRAND ของบริษัท ครบทุกแบบ ทุกรุ่น ที่บริษัทมีจำหน่าย เพื่อให้ ลูกค้า ที่เดินเข้ามาซื้อสินค้าในร้าน ได้เลือกซื้อสินค้าของบริษัท ทุกชนิด ที่มีจำหน่ายในร้านครบ ตามความต้องการของลูกค้า และ ถือเป็นหนึ่งใน นโยบาย การเป็นร้านค้า ในโครงการ BRAND CORNER ด้วย
ตัวอย่างภาพ ด้านล่าง เป็น บทความ ที่เขียนประชาสัมพันธ์ โครงการ BRAND CORNER ตัวอย่างหนึ่ง ที่สื่อให้ ร้านค้า เห็นว่า จะได้อะไร จากการเข้าร่วมโครงการนี้บ้าง และเป็นการ กระตุ้น ให้ร้านค้าตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ มีรายละเอียดของการให้ ซื้อสินค้า 1 LOT เพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการด้วย

ค่าใช้จ่าย ที่บริษัทต้องเสียให้กับ การทำ โครงการ BRAND CORNER เพื่อร้านค้า จะใช้เงินในส่วนที่ เป็นผลกำไรจากที่ ขายสินค้า ให้ร้านค้าใน 1 LOT ใหญ่ที่ลงสินค้านั้น และ บริษัทต้องสมทบเงิน งบประมาณส่วนของการตลาด เพิ่มให้ อีกส่วนหนึ่ง ที่จะมาเป็นค่า อุปกรณ์ส่งเสริมการขายต่างๆ, ค่าพิมพ์ป้าย โฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆที่จะติดในร้านค้า เพื่อช่วย เพิ่มยอดขาย, ค่าใช้จ่ายใน การฝึกอบรม พนักงานขาย ของร้านค้า ให้มีทักษะการขาย แบบมืออาชีพ, ค่าใช้จ่ายในการให้ ผู้เชีย่วชาญ ด้านพัฒนาการขายและขยายตลาด ลงมาช่วย ดูแลและวิเคราะห์ แก้ปัญหาการขายในพื้นที่ เพื่อให้ ร้านค้า เพิ่มยอดขาย สินค้า ได้สูงกว่า ของคู่แข่ง ในพื้นที่ ร้านค้าไม่ได้มีกำลังทรัพย์ มากพอ ที่จะจ้าง พนักงาน ฝ่ายการตลาด ให้ดูแลรับผิดชอบ การขาย และขยายตลาดของร้านตนเอง การได้มี ผู้เชี่ยวชาญ ด้านพัฒนาการขายและขยายตลาด จากส่วนกลาง ลงมาช่วยร้านค้า จะทำให้ร้านค้า ได้เปรียบคู่แข่งในพื้นที่ และมีโอกาส สร้าง และพัฒนายอดขาย รวมถึงขยายตลาด การขายของสินค้า ในพื้นที่ ให้เติบโตสูงขึ้นกว่า ของร้านค้าคู่แข่ง ในพื้นที่ ซึ่งเจตนารมน์อันนี้ ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ บริษัท เจ้าของ แบรนด์ ต้องการจะ กินส่วนแบ่งตลาดของสินค้า และ เพิ่มยอดขาย สินค้า แบรนด์ ของตนเอง ในทุกๆพื้นที่ ให้ได้ สูงกว่า ของคู่แข่งในพื้นที่อยู่แล้ว
* ศึกษาตัวอย่าง รายละเอียด แนวทาง วิธีการปฏิบัติ เพิ่มเติมได้ ในบทความที่ 1. Branding Strategies and Market Expansion Mobile phone accessories are the Top Brand in the market and sales up more than 50% from Brand Corner Project. 1. กลยุทธ์ การสร้างแบรนด์ และ ขยายตลาด อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ ให้เป็น แบรนด์อันดับ 1 และ มี ยอดขายเพิ่มขึ้น สูงกว่า 50% จาก โครงการ Brand Corner 
และบทความที่ 12. กลยุทธ์ และวิธีการเร่ง เพิ่มยอดขาย ของ คุณอนิรุทธ หุตางกูร เพื่อให้ขายสินค้าได้ ทะลุเป้าหมายยอดขายที่ 197.60 ล้านบาท ภายในสิ้นปี
ทำไม กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER ถึงเป็น สุดยอด กลยุทธ์ ที่ดีที่สุด ใน การเพิ่มยอดขาย

• เป็น กลยุทธ์ ที่ในการใช้เจาะตลาด ของคู่แข่ง และ ขยายตลาด ในพื้นที่ เพื่อให้ แบรนด์สินค้าของตนเอง เข้าไป กระจายการขายในพื้นที่ แทน แบรนด์ สินค้าของคู่แข่ง

เมื่อมีการเสนอ การช่วยเหลือร้านค้า ใน การพัฒนาธุรกิจ ของร้าน ให้ดียิ่งขึ้น โดยมี แผนงานเข้าไปนำเสนอ ทำให้ เจ้าของร้าน มองเห็นความเป็นไปได้ ว่าจะเกิด การเพิ่มยอดขาย ขึ้นได้จริง ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับ บริษัท แบรนด์ เดิมที่เขาขายสินค้าให้อยู่ ว่าที่ผ่านๆมา ไม่ได้ช่วยอะไรกับ ร้านค้า มากมายเลย ร้านค้า จึงยินดี และเปิดโอกาสให้ แบรนด์ ของเรา เข้าไปแทนที่ สินค้า แบรนด์ ของคู่แข่ง

• เป็นกิจกรรม ที่ใช้เริ่มต้น สานความสัมพันธ์ ระหว่าง ร้านค้า กับทาง บริษัท เจ้าของ แบรนด์ ให้แน่นแฟ้น แนบแน่น และวิธีการนี้ สามารถใช้ได้ กับ การเสนอขายสินค้า ให้กับ ร้านค้าใหม่ ที่ยังไม่เคยมีการติดต่อ ซื้อขายกันมาก่อนได้

ถึงแม้จะเป็น ลูกค้าใหม่ ที่ยังไม่เคย ซื้อขายกันมาก่อนก็ตาม ร้านค้า จะรู้สึกดี กับ บริษัท ว่า แบรนด์ สินค้านี้ มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จากเจ้าของ แบรนด์ สินค้า เนื่องจากบริษัทเราไป ช่วยสร้างมาตรฐาน การขาย ของทั้ง รูปแบบร้าน การทำโปรโมชั่น และ กิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และ ช่วยพัฒนา พนักงานขาย ของร้าน ให้เป็น พนักงานขายมืออาชีพ ฯลฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อร้านทั้งสิ้น และเมื่อมีการไปทำกิจกรรมที่ร้านบ่อยๆ เจอเจ้าของร้าน พูดคุยกัน ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็จะเกิดขึ้น และยิ่งจะแนบแน่นมากขึ้น ถ้าเราสามารถพัฒนาให้ร้านค้า เพิ่มยอดขาย ได้อย่างเห็นผลชัดเจน ในแต่ละเดือน

• การช่วยเหลือร้านค้า ของ โครงการ BRAND CORNER ช่วย ฟรี! ตลอดทุกๆเดือน ไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียม หรือ หักเปอร์เซ็นต์ ต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นความจริงใจ ที่เกิดขึ้น และ มีคุณค่า กับ ร้านค้ามาก ทำให้ได้รับ การร่วมแรงร่วมใจ ในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอย่างเต็มที่ ทำให้ในอนาคต อาจผูกขาดเป็นสินค้า แบรนด์เดียว ที่จำหน่ายใน ร้านค้า ไม่มี แบรนด์คู่แข่ง ขายอีกต่อไป

เมื่อความสัมพันธ์ดีขึ้น จนอาจสามารถ ลดปริมาณการสั่งซื้อสินค้าของ แบรนด์คู่แข่ง มาจำหน่ายในร้านลงไปได้ เพราะ แบรนด์ คู่แข่งไม่ได้ช่วยอะไรกับ ทางร้าน และ ทางร้าน ก็อาจร่วมทำเป้า ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ฟรี ! กับ ทางบริษัท เจ้าของ แบรนด์ จึงต้องตั้งใจ และ มุ่งทำยอดขาย สินค้าของเรา ให้เพิ่มขึ้น

• ทางเจ้าของ แบรนด์สินค้า จะสามารถขอความร่วมมือ ในการทำ กิจกรรม ที่ร้านค้าต่างๆทั่วประเทศได้ เสมือนเป็น สาขา ของ แบรนด์ เพื่อให้สามารถ เพิ่มยอดขาย สินค้า และ ขยายตลาดการขาย ในทุกพิ้นที่ ให้กว้างขวางมากขึ้นต่อไป

ปกติถ้าไม่สนิท กับ ทางร้านค้า การจัดวางสินค้า ก็อาจต้องเสียค่าจัดวางสินค้า ในร้านค้านั่นๆ หรือ ถ้าจะไปตั้งบูธ โปรโมทสินค้า ก็อาจต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ตั้งบูธ กับ ทางร้านค้า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และการทำ กิจกรรม ต่างๆ เพื่อช่วย เพิ่มยอดขาย ร้านค้า จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้เกิดความร่วมมืออันดีต่อกันตลอดไป

• เป็น โครงการ ที่ทำให้สามารถ บูส เพิ่มยอดการขาย สินค้า ให้เพิ่มมากขึ้น ในแต่ละเดือนได้ ด้วยวิธีการจัด กิจกรรมเสริม ต่างๆ กับ ทางร้าน BRAND CORNER ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำ

การจัด กิจกรรม ที่ร้านค้า และ ส่งเสริมการขาย ประจำเดือน หรือ ตามช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น การร่วมกับทางร้าน ใน โครงการ BRAND CORNER จัดกิจกรรรม " มหกรรมแสดงสินค้า แบรนด์ เพื่อตอบแทนลูกค้า ราคาพิเศษ! เพียง 7 วันเท่านั้น " เพื่อเร่ง บูส ยอดขาย ใน 7 วัน ทำให้ยอดขายของ แบรนด์ ในร้าน เพิ่มขึ้นมากขึ้น ในเดือนที่จัดกิจกรรม อย่างเห็นได้ชัด

• บริษัท สามารถลดค่าใช้จ่าย ทางการตลาด ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการกระจาย สินค้าตัวอย่าง เพื่อแจก ฟรี! ให้กับ ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ได้ทดลองใช้ และ รู้จัก แบรนด์ สินค้านั้น โดยการจัดกิจกรรมเสริม " มหกรรมแสดงสินค้า แบรนด์ ตอบแทนลูกค้า ราคาพิเศษ! เพียง 7 วันเท่านั้น " ตามร้านค้า ในเครือข่าย ของ โครงการ BRAND CORNER ทั่วประเทศ จะสามารถผลักดันให้ ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ทุกคน ทดลอง ซื้อสินค้า แบรนด์ นี้ ไปใช้ ด้วยการ ช่วยส่งเสริม การทำราคาพิเศษ ให้กับ ร้านค้า แทน งบประมาณการตลาด ที่จะต้องไป ผลิตสินค้าทดลองใช้มาแจก ฟรี! และค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง

การลดราคาสินค้า จะไม่ สูญเสีย กำไร โดยไร้ประโยชน์ แต่เป็นการสร้าง ผู้บริโภค กลุ่มใหม่ขึ้นมา ให้รู้จัก และ ทดลองซื้อสินค้า แบรนด์ของเราไปใช้ ในทุกๆพื้นที่ ทั่วประเทศ ถ้าไม่ยอมลดราคา เพื่อกระตุ้นการซื้อ ก็จะไม่เกิด กลุ่มลูกค้า ที่เป็นผู้บริโภครายใหม่ขึ้นมา ในทุกๆพื้นที่ทั่วประเทศได้ หากทาง บริษัท ต้องการให้เกิด ผู้บริโภค กลุ่มใหม่ขึ้นมา เป็นจำนวนมาก ก็จำเป็น ที่จะต้องสนับสนุน ร้านค้า ด้านราคาขาย ที่ต้องลดลงให้น่าสนใจจริงๆ เพราะร้านค้า ไม่ยอมลดราคา ของสินค้าเขาเองมากๆแน่ เราจึงอาจเข้าไปร่วม กำหนดราคาลดพิเศษในครั้งนี้ด้วย โดยยอมชดเชยราคาโดยการ แถมสินค้าเฉพาะตัว ที่ต้องการลดราคาพิเศษมากๆ เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ซื้อสินค้านั้น ไปทดลองใช้

• บริษัท เจ้าของ แบรนด์สินค้า สามารถสร้างเครือข่าย ร้านค้า BRAND CORNER เพื่อกระจายการขายสินค้า ลงไปในพื้นที่ต่างๆ ครอบคลุม ทั่วทุกภูมิภาค ของประเทศ ได้ง่ายมากขึ้น เป็นการวางรากฐาน ความมั่นคง ที่สำคัญต่อธุรกิจ ในยุคการค้า ออนไลน์  เพื่อให้อยู่รอดได้ โดยใช้ระยะเวลา ในการดำเนินการ นำเสนอโครงการ สั้นที่สุด และใช้ ค่าใช้จ่าย หรือ งบประมาณ ที่ต่ำที่สุดด้วย

การ ขยายตลาด ร้านค้าจัดจำหน่าย ในทุกๆพื้นที่ ในระดับ รากหญ้า ที่อาจกระจาย ลงลึกไปถึงใน ระดับตำบล และ หมู่บ้าน ทางบริษัท เจ้าของ แบรนด์ อาจจัด โครงสร้างราคาใหม่ ให้เอื้อต่อการ มี ตัวแทนรายใหญ่ ทำหน้าที่ ตัวแทนแต่งตั้ง เป็น ศูนย์กระจายสินค้า ประจำจังหวัด ให้ขายส่ง และ กระจายการขายสินค้า ให้กับ ร้านค้า รายย่อยต่างๆ ในระดับ เขต หรือ อำเภอ ตำบล หรือ ในระดับหมู่บ้าน ทำให้สามารถ ลดค่าใช้จ่าย ของบริษัท ลงได้อย่างมาก เพราะ ตัวแทนรายใหญ่ รู้จักพื้นที่ ของตนเองเป็นอย่างดี และ มีศักยภาพ ที่จะสามารถนำเสนอ โครงการ BRAND CORNER กระจายต่อ ลงไปยัง ร้านค้า ระดับเขต และ ระดับตำบล รวมถึง หมู่บ้านได้ โดยตั้ง การลงสินค้า LOT แรก สำหรับ ร้านค้าต่างๆ เพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการ BRAND CORNER ให้มาตัดซื้อสินค้า LOT แรกได้ที่ ตัวแทนรายใหญ่ ในจังหวัดทุกจังหวัด ทั่วประเทศ

• ช่วยให้ การแก้ปัญหา ด้านการขายต่างๆ ง่าย สะดวก และรวดเร็ว  เช่น  ยอดขายสินค้าในพื้นที่ลดลง, การขายสินค้า ตัดราคากัน, พบปัญหา การปลอมแปลงสินค้า, การขายสินค้าของบริษัท ข้ามเขตกัน, การเจอปัญหาคู่แข่ง เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด ในพื้นที่  ฯลฯ  จะทำให้การแก้ปัญหาได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว เพราะเกิดจาก ความสามัคคี และ ความร่วมมือ ที่ดี ของทุกฝ่าย ในพื้นที่ มาร่วมระดมความคิดกัน เพื่อช่วยแก้ปัญหา เฉพาะในเขตพื้นที่ จังหวัด ของตนเอง และมีคนกลางจากบริษัท เข้าไปเป็นตัวแทนร่วมแก้่ปัญหาด้วย 

แก้ปัญหาการขายในพื้นที่ย่อย ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น เพราะเป็นการ รวมศูนย์กลาง ในการแก้ปัญหาด้วย ดำเนินการ แก้ปัญหาจาก 4 ฝ่าย คือ ร้านค้าย่อยในพื้นที่ระดับ อำเภอ, ตำบล, ตัวแทนรายใหญ่ และ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการขายและขยายตลาด จากบริษัทเจ้าของ แบรนด์  ในโอกาสต่อๆไปหากทาง บริษัท เจ้าของ แบรนด์สินค้า เกิดปัญหาอะไรขึ้น ที่จะต้องประชุมหารือกัน สามารถส่งตัวแทนของบริษัท เข้าไปพูดคุยปรึกษาและแก้ปัญหาร่วมกันได้ที่ สำนักงานของ ตัวแทน BRAND CORNER ประจำจังหวัด และจะพูดจากันได้ง่าย ได้รับความร่วมมือกัน เป็นอย่างดี และถ้ามีจัดโปรแกรม สะสมยอดขาย 6 เดือน หรือ 1 ปี แล้ว ร้านค้า ทำยอดขายได้ และได้ไปต่างประเทศด้วยกันกับทางบริษัท จะทำให้เกิดความสนิทสนมกลมเกรียวกันระหว่าง ทุกๆร้านค้า ในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้นต่อไปอีก

• ช่วยให้การเปิดขายสินค้า กับ ร้านค้าครั้งแรก ขายได้เป็น LOT ใหญ่ ที่ละมากๆ สามารถกำหนด ยอดการสั่งซื้อสินค้า LOT แรกได้เอง ตามต้องการ

ผมเคยเข้าไปทำงานใน บริษัทขาย อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ แห่งหนึ่ง ในการเจาะตลาด ร้านขายโทรศัพท์มือถือ พนักงานขาย ใช้วิธีการขาย ในรุ่นของสินค้า ที่คู่แข่งไม่มีมาขาย ตัวอย่างเช่น เครื่องชาร์จของ NOKIA รุ่นนี้ ทางร้านไม่มีขาย แต่ลูกค้าเคยมาถามซื้อ ก็จึงขายสินค้าของแบรนด์เราได้ หรือ สินค้ารุ่นที่ใช้ในตลาดมากๆ แต่ของคู่แข่ง สินค้าขาดส่ง ทำให้เป็นช่องทาง ที่เราจะเข้าขายได้ แล้วตอนหลัง ค่อยผลักดันการขายสินค้ารุ่นอื่นๆเข้าไปในร้าน ในการขาย อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ อาจขาย ร้านค้าหนึ่ง ได้ครั้งละ 2,000-3,000 บาท และต้องเข้าเยี่ยมลูกค้าบ่อยๆ ลูกค้าของหมด ถึงจะซื้อใหม่ ผมเห็นว่า ยอดขาย อุปกรณ์เสริม ที่มีราคา ชิ้นละ 100-200 บาท และต้องไปแชร์ตลาด กับ แบรนด์ ของคู่แข่งอีก หลายแบรนด์ ถ้ายี่ห้อ (แบรนด์) เราไม่ดัง คนซื้อน้อย ยอดขายของบริษัทเรา ไม่มีทางพุ่งแน่

จึงทำ กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER ขึ้นมา เป็นชุดเอกสาร 4-5 หน้า เขียนเสนอ วิธีการปฏิบัติต่างๆ ที่ บริษัทเรา สามารถช่วยให้ ร้านค้า เพิ่มยอดขายขึ้นได้ จากการเข้าร่วม โครงการ BRAND CORNER แล้วผมก็ฝึกอบรม พนักงานขาย ให้สามารถ นำเสนอขาย โครงการดังกล่าวได้ ต่อจากนั้น พนักงานขาย แทนที่จะขายสินค้าได้ ครั้งละ 2,000-3,000 บาท กลายเป็นขายครั้งละ 50,000 กับ 100,000 บาท แล้วมี การตกแต่งร้านค้า ให้ด้วย ทำให้ยอดขายปลีก ของร้านค้า เพิ่มสูงขึ้นอย่างถล่มทลาย สินค้าของ บริษัท จึงสามารถ เพิ่มยอดขาย ได้อย่างรวดเร็ว

• กลยุทธ์ นี้สามารถทำ เป้าหมายการขาย ของบริษัท ให้ ทะลุเป้า ทุกเดือน ได้ง่ายขึ้น

ในการลงไป พัฒนา และแก้ไขปัญหาเรื่อง การขาย ตั้งแต่ ปลายรากของ ร้านค้า ระดับหมู่บ้าน และ ตำบล จะส่งผลดีต่อๆขึ้นมา จนทำให้ ยอดขาย ในจังหวัดนั้น เพิ่มสูงขึ้น เพราะ เราได้สร้างทักษะ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย อย่างต่อเนื่อง และขยายตลาดในพื้นที่ จนสินค้าของเรา ขายดีเพิ่มขึ้นทุกเดือน ส่วนของ คู่แข่ง ลดลง เมื่อดู สรุปยอดการขาย ในภาพรวม ถ้าจังหวัดใด ยอดขาย เติบโตเพิ่มขึ้นได้น้อย หรือ ลดลง ทางผู้รับผิดชอบ ก็สามารถลงพื้นที่ ไปแก้ไขปัญหาได้ ด้วยความร่วมมือจาก ร้านค้า ที่เข้าร่วม โครงการ เป็น BRAND CORNER จะทำให้ การแก้ปัญหา สำเร็จลุล่วงได้ง่าย เมื่อมีการช่วยแก้ปัญหาต่างๆแล้ว ก็สามารถ กำหนดเป้าหมาย การขาย ล่วงหน้าทุกเดือน ให้กับทุกๆร้านค้า ในเครือข่ายได้ การปิดการขาย จึงทำได้สำเร็จ สูงกว่าเป้าหมาย ที่บริษัทตั้งไว้ ทุกเดือนได้
นี่คือ เหตุผลว่า ทำไม การทำ โครงการ Brand Corner ถึงเป็น สุดยอด กลยุทธ์ ที่ดีที่สุด ในการเพิ่มยอดขาย ทีนี้เมื่อผลักดันสินค้า เข้าไปในร้านค้าจำนวนมากแล้ว จำเป็นต้องสร้างรูปแบบโปรโมชั่นต่างๆขึ้นมา เพื่อให้ร้านค้า สามารถ ระบายการขายสินค้า ออกไปได้ รวมทั้งการสร้าง กิจกรรรมเสริมต่างๆ เช่น การจัด มหกรรมแสดงสินค้า แบรนด์ ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือ ในการให้สามารถระบายการขายสินค้าจำนวนมากออกไปจากร้านได้
รูปด้านล่าง เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่ง ของ ร้านค้า ที่เข้าร่วม โครงการ BRAND CORNER

• กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER ช่วยแก้ปัญหาที่ ร้านค้า ไม่ยอมสั่งซื้อสินค้า ของบริษัทไปวางขายที่หน้าร้าน ทุกประเภท ทุกชนิด และทุกรุ่น จะเลือกขายแต่สินค้า ที่ขายได้ดีในตลาดเท่านั้น จึงจะสั่งมาขาย ทำให้ยอดขายของ บริษัท โดยรวม ไม่เติบโตอย่างเต็มที่ 

ตัวอย่าง เช่น สินค้าของ บริษัท มีอยู่ 15 ชนิด ขายได้ดีที่สุด ติดตลาดอยู่เพียง 2 ชนิด ทำให้ยอดขาย สินค้าบางตัวขายไม่ดี เพราะร้านค้า ไม่สั่งไปขาย เรื่องนี้ สามารถทำให้ยอดขายเติบโต ได้สูงถึง 300% หากแก้ปัญหาการขายได้ โดยใช้ กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER  ตามรายละเอียดเพิ่มเติม ในตัวอย่าง บทความที่  20. กลยุทธ์ การปรับโครงสร้างราคา และแนวทางการแก้ปัญหา เพื่อให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 300% โดย คุณ อนิรุทธ หุตางกูร   เรื่องนี้ เกิดจาก ปัญหา ที่ให้ ร้านขายส่ง รายใหญ่ เพียงไม่กี่ราย ผูกขาด การขายสินค้าที่ขายดีในตลาด เพียง 2 ชนิด ที่จริงแล้ว ต้องกระจายความสำคัญ ของร้านค้า ทุกร้าน อย่างเท่าเทียม และ ยุติธรรม และ บริษัท ต้องควบคุม ราคาขายปลีก ของสินค้าตัวเอง ให้ได้ การทำโครงการ BRAND CORNER ช่วยให้ สามารถควบคุมราคาขายปลีก ในตลาดได้
เพราะ ร้านค้าในโครงการ ทุกร้าน ต้องใช้ มาตรฐาน ราคาขายปลีกสินค้า ราคาเดียวกันหมด เหมือนกับที่ ลูกค้ามา สั่งซื้อปลีก กับ บริษัท โดยตรง ก็ต้องขายราคาเดียวกัน และ ถ้าทำ โปรโมชั่นราคาพิเศษ จากส่วนกลางมา ต้องขาย ราคาลดพิเศษ เหมือนๆกันด้วย เพราะ ต้นเหตุใหญ่ ของปัญหาการขาย กรณีตัวอย่าง ด้านบน นี้ เกิดจาก ราคาขายปลีก ในตลาดเสีย ตัวแทนรายใหญ่ สั่งสินค้า LOT ใหญ่มาสต๊อก ได้ต้นทุนต่ำที่สุด แล้วต้องมา ระบายการขายให้เร็ว เอาเงินสดไว้ก่อน เพราะได้เครดิตยาว จากเจ้าของ แบรนด์ เป็นการหมุนเงิน เพื่อสร้างกำไร แต่สินค้าของ บริษัท ราคาเสีย เช่น ราคาขายปลีกข้างขวด สกรีนไว้ 320 บาท แต่ ร้านค้าส่ง รายใหญ่ เอามาขายส่ง หน้าร้าน ราคา 118 บาท ซึ่งที่ ร้านค้าส่ง ผู้บริโภคทั่วไป ก็เดินเข้าไปซื้อได้ ตัวแทนจำหน่าย รายใหม่ ที่จะเข้ามาขายสินค้า แบรนด์นี้ พอดูกำไรส่วนต่าง ที่จะได้รับ จาก ราคาขายปลีก ในตลาดจริงๆ เหลือนิดเดียว ไม่คุ้มกับ การซื้อสินค้า มาสต๊อกไว้ขาย ดังนั้น ก็ไม่มี ตัวแทนจำหน่าย หลายๆราย มาช่วยทำตลาด การขายสินค้านี้ อย่างจริงจัง ยอดขายโดยรวมของ บริษัท จึงไม่เติบโต
การเข้าร่วม โครงการ BRAND CORNER ร้านค้า ทุกร้าน จะถูกกำหนด การสั่งซื้อไว้เลยว่าต้อง ซื้อสินค้าชนิดใดบ้าง รุ่นไหนบ้าง อย่างละกี่ตัว สำหรับการซื้อสินค้า LOT แรก แต่ต่อไป ก็จะสั่งซื้อสินค้า ตามระบบ การกำหนด สต๊อกขั้นต่ำ ของร้าน ที่มีการประเมินจาก ยอดการสั่งซื้อสินค้า ย้อนหลัง เพื่อไม่ให้ตัวแทนจำหน่าย มีสินค้าค้างสต๊อกนาน

• ช่วยสร้างมาตรฐาน ราคาขายปลีก ของบริษัท และ แก้ปัญหา ร้านค้า ขายตัดราคาขายปลีกกัน 
• กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER สามารถ เพิ่มยอดขาย ให้กับ บริษัท เจ้าของ แบรนด์สินค้า ได้ ตามเป้าหมายทุกเดือน

จากการทำประมาณการยอดขายประจำเดือน ของ ผู้จัดการฝ่ายขาย สามารถลงไปดู ในรายละเอียดข้อมูลความเคลื่อนไหว ของยอดขาย ร้านค้าต่างๆของบริษัท ทั่วประเทศได้ โดยอาจ โฟกัสเป็น รายภาค และดูลงมาถึงยอดขายในจังหวัด ว่ามีอัตราการเติบโตของ ยอดการขายที่ลดลง ผจก.ฝ่ายขาย สามารถเห็นตัวเลขได้ว่า จังหวัดใด มีปัญหายอดขาย ลดลงสูงสุด เร่งแก้ไขก่อน โดย นำรูปแบบ ของการจัดกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ BRAND CORNER ว่า กิจกรรมไหน ที่เหมาะสมกับการนำไปปฏิบัติในพื้นที่นั้น เพื่อ เร่งเพิ่มยอดขาย เช่น
กิจกรรรม แนะนำแนวทาง การสร้าง ตัวแทนขายอิสระ ให้กับ ร้านค้า เพื่อให้ร้านค้า มีพนักงานขายอิสระ สำหรับร้านค้า เพื่อไปช่วย เสนอขายสินค้า ในตลาดใหม่ๆ ที่พนักงานขายอิสระคนนั้นถนัด โดยร้านค้าจ่ายค่าตอบแทน เป็นคอมมิชชั่น และ โบนัสการขายทะลุเป้าประจำ Quater ทาง ผจก.ฝ่ายขาย ก็ลงไปดูว่าจะวางโครงสร้างราคาขายอย่างไรสำหรับร้านค้านี้ เพื่อให้แบ่งค่า คอมมิชชั่นให้กับฟรีแลนซ์ด้วย อาจกำหนดให้มีการฝึกอบรม ตัวแทนขายอิสระ ในเรื่อง ผลิตภัณฑ์ และเทคนิคการขาย ถ้าเพิ่มจำนวน ตัวแทนขายอิสระได้จำนวนมาก ยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว คนที่ชอบการขายอิสระ มีจำนวนมาก ทั่วทุกจังหวัด ในประเทศไทย เช่น กลุ่มคนที่ชอบทำ งานขาย ในระบบ MLM 
กิจกรรม ที่ช่วยร้านค้า จัดงาน " มหกรรมแสดงสินค้า แบรนด์ ตอบแทนลูกค้า ราคาพิเศษ! เพียง 7 วันเท่านั้น " ก็เป็นกิจกรรมที่ช่วย บูส เร่งยอดขายภายใน 1 สัปดาห์เช่นกัน ดังนั้นแล้ว หากเรา วนเวียนไปช่วยทำตัวอย่างกิจกรรม ให้ร้านค้าเห็น และทำเป็น ต่อไปเมื่อถึงเวลาคับขัน ที่ต้องการ เร่ง เพิ่มยอดขาย โดยด่วน ก็สามารถ ขอความร่วมมือกับร้านค้า ทั้ง 20-30 รายทั่วประเทศให้ทำกิจกรรม พร้อมกันได้เลย ยอดสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ก็จะสั่งเข้ามาพร้อมกัน ยอดขายของบริษัท ก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างถล่มทลาย

• เป็น กลยุทธ์ ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถช่วยเหลือสังคม ส่วนรวม ในทุกๆพื้นที่ ของประเทศไทย ได้โดยตรง เมื่อมีการช่วยเหลือร้านค้า ในระดับรากหญ้า ในทุกๆพื้นที่ ของ ประเทศไทย ทำให้พัฒนาการ การค้าขาย ของร้านค้าต่างๆ ในทุกๆพื้นที่ คล่องตัว จะเกิดการจ้างงาน ในพื้นที่ และกระจายรายได้ ให้ประชาชนทุกคน ส่งผลให้เศษฐกิจของประเทศดีขึ้น

จากการกินรวบ ของ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และสาขาย่อยที่เป็นเครือข่าย ในทุกๆพื้นที่ ของประเทศไทย ส่งผลโดยตรง ต่อร้านค้าต่างๆทั่วประเทศ โดนแย่งส่วนแบ่งการขายออกไป เพราะไม่มีทักษะ ความรู้ ในการแก้ปัญหาการค้าขาย และไม่สามารถพัฒนา และปรับปรุงร้านค้า ของตนเอง ให้แข่งขันได้ในพื้นที่ เสมือนปลาใหญ่ กินปลาเล็ก สุดท้ายร้านค้า ก็ต้องปิดตัวลง หรือ ย้ายที่ทำการค้า เข้าไปอยู่ในห้างใหญ่ ส่วนการค้าในพื้นที่ย่อย ก็ตกเป็นของ สาขาย่อย ที่เป็นเครือข่ายของ ห้างขนาดใหญ่ บวกกับยุค การค้า ในตลาดออนไลน์ ด้วย ก็ไม่ต้องคิดเลยว่า..จะเป็นตัวเร่งให้ ร้านค้าย่อย เสียหายหนักมากขึ้น หากไม่มีการปรับตัว การค้า ทางออนไลน์ ที่จริงแล้ว เป็นปัญหาหนักกว่าของ ทางห้างฯอีก เพราะต่อไปทุกคนซื้อสินค้า ทางออนไลน์ โดยตรง จากประเทศผู้ผลิต เงินทองรั่วไหลมหาศาล ถ้าไม่ช่วยกันคิดถึง สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมของประเทศ ก็จะพบปัญหาเศษฐกิจ ที่เป็นอยู่อย่างปัจจุบัน และจะแย่ลงทุกๆวัน.

*ศึกษาข้อมูล กลยุทธ์ โครงการ BRAND CORNER เพิ่มเติมได้จาก บทความที่ 26. (ตัวอย่าง) หนังสือตอบรับ และ แผนการพัฒนายอดขาย ร้าน BRAND CORNER ให้เพิ่มยอดขายเฉลี่ย ในแต่ละสาขาได้ 30%